เสียงธรรมจากห้อง “เมตตาภิรมย์กรรมฐาน”
วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2568
เรื่องเล่าภาคทิพย์งานหล่อพระเจ้าองค์เเสนดวงจิตพระนิพพาน
โดย อาจารย์ คณานันท์ ทวีโภค
สำรวมจิตเป็นสมาธิ ทำจิตให้ผ่องใส ปล่อยวางตัดร่างกายขันธ์ 5 รวมจิตเข้าสู่ความสงบ ประคองสติรักษาสภาวะแห่งความสงบร่มเย็นของใจ จากนั้นกำหนดจิตให้ผ่องใส จิตเป็นเพชรประกายพรึก ทรงสภาวะในกสิณจิต เข้าถึงจิตประภัสสร กสิณคือจิต จิตคือกสิณ จิตสว่างเป็นประกายพรึก ทรงสภาวะที่จิตประภัสสรนี้ไว้
จากนั้นกำหนดสติรำลึกนึกถึงพระรูปพระโฉมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กำหนดรู้ในพุทธานุสติ เชื่อมโยงกระแสพุทธานุภาพลงมาเป็นหนึ่งเดียว จิตถึงพระพุทธองค์ ทรงสภาวะทรงภาพพระทั้ง 3 ฐานไว้ จิตตั้งมั่นอยู่กับองค์พระทั้ง 3 ฐาน องค์พระสว่างไสว จิตถึงพุทธะ พุทธะถึงจิต
จากนั้นตั้งจิตอธิษฐานรำลึกนึกถึง ว่าเมื่อไหร่จิตของเรารำลึกนึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าทรงภาพพระ 3 ฐาน เมื่อจิตของเราเชื่อมโยงถึงพระพุทธองค์ พุทธานุภาพของพระพุทธองค์ก็ส่งตรงลงมาถึงเรา ยันต์เกราะเพชรที่เราเคยได้อาราธนาไว้ กำลังของพุทธานุภาพก็ย่อมมาสถิตรักษาขันธ์ 5 กายสังขารนี้ ตลอดรวมไปจนถึงคุ้มครองรักษาทั้งจิตให้เป็นกุศล กำหนดน้อมรำลึกให้ทั่วกายขันธ์ 5 ของเรานี้ปรากฏยันต์เกราะเพชรขึ้น ตั้งแต่กลางกระหม่อม บนศีรษะของเรา กลางอก กลางแผ่นหลัง แขนขาทั่วกายของเรามียันต์เกราะเพชรสว่างชัดเจนอยู่ ทรงสภาวะที่ยังเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับกาย มีพระ 3 ฐานอยู่เหนือศีรษะภายในศีรษะและภายในอกของเรา ส่วนผิวหนังทั่วกายขันธ์ 5 ปรากฏยันต์เกราะเพชรเป็นเส้นแสงสีขาวปรากฏอยู่ทั่วกายของเรา ทรงสภาวะในพุทธานุภาพ จิตเชื่อมโยงถึงพระพุทธองค์ พระพุทธเจ้าคุ้มครองรักษา กำหนดรู้ทรงสภาวะไว้
เนื่องจากเมื่อวานเป็นวันเสาร์ 5 หลายท่านก็ได้ทั้งเดินทางไปรับยันต์เกราะเพชรก็ดี หรือรับที่บ้านก็ดี หรือเคยรับมาในกาลก่อนก็ดี ก็ให้เราทบทวนกำหนดรู้ว่า กำลังของยันต์เกราะเพชรที่เราเคยอาราธนานั้น มีความเชื่อมโยงกับจิตของเรา จิตเราเข้าถึงไตรสรณคมน์ จิตเราไม่มีวิจิกิจฉาในคุณพระรัตนตรัย จิตเราเชื่อมโยงถึงพระพุทธองค์ จิตเรามีความศรัทธามั่นคงในพระพุทธเจ้า รักษาคุณความดีทานศีลภาวนาไว้เป็นปกติ กำลังของยันต์เกราะเพชรก็ย่อมอยู่สถิตรักษากายขันธ์ 5 ร่างกายและจิตของเรา กำหนดทรงสภาวะที่กายของเรานี้ทรงภาพพระ 3 ฐานและมีกำลังจิตตานุภาพมีพุทธานุภาพพุทธบารมีของพระพุทธเจ้าและยันต์เกราะเพชรสถิตรักษามั่นคงอยู่ ทรงสภาวะไว้
กำหนดจิตอธิษฐานด้วยอำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัยด้วยพุทธานุภาพ ขอเส้นแสงรัศมีแห่งยันต์เกราะเพชรพุ่งทะลุออกมาจากกายขันธ์ 5 เปล่งประกายออก เป็นแสงสว่างรูปยันต์พุ่งออกมาจากทั่วกายของเรา ทรงสภาวะไว้ ขอรัศมีกำลังแห่งยันต์เกราะเพชรคุ้มครองรักษาเราทุกคนให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยทั้งปวง แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยพิบัติทั้งปวง
สำหรับในวันนี้ก็จะเป็นการพูดคุยกันเป็นกรณีพิเศษ หลังจากที่จบจากงานหล่อพระเจ้าองค์แสนดวงจิตพระนิพพาน ซึ่งการพูดคุยนี้ก็จะเป็นการพูดคุยเล่าเรื่องที่ปรากฏขึ้นในงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคของความเป็นทิพย์เป็นหลัก อันที่จริงการสร้างพระเจ้าองค์แสนดวงจิตพระนิพพานนี้ ก็เป็นดำริที่พระท่านเมตตาสั่ง เพื่อให้การสร้างพระเจ้าองค์แสนนี้พระพุทธรูปองค์นี้ เป็นกุศโลบายในการปฏิบัติพระกรรมฐาน รวมถึงเป็นการรวมจิตรวมใจสร้างความมั่นคงในการปฏิบัติธรรมเพื่อพระนิพพานเป็นหลัก ซึ่งผลอานิสงส์ดังที่เราทราบ ผู้ที่จะได้รับผลอานิสงส์ในการสร้างพระพุทธรูปองค์นี้มากที่สุด อันที่จริงแล้วก็คือตัวบุคคลที่ได้ร่วมจิตร่วมใจกันเขียนคำอธิษฐานเขียนแผ่นทองเพื่อพระนิพพานในชาตินี้ เพราะแต่ละครั้งในการเขียนแผ่นทองนั้น บุคคลนั้นต้องใช้กำลังใจยกจิตขึ้นไปบนพระนิพพาน กายเนื้อเขียนแผ่นทองกายพระวิสุทธิเทพกายทิพย์ต้องใช้กำลังใจสูงขึ้นไปจนถึงพระนิพพาน เขียนแผ่นทองและอธิษฐานจิตถวายตรงต่อสมเด็จองค์ปฐมต่อพระพุทธเจ้าต่อหลวงพ่อบนพระนิพพาน ซึ่งทั้งหมดเราอาจจะคิดว่าก็แค่เป็นการยกจิตขึ้นไปบนพระนิพพาน แต่ให้เราคิดพิจารณาให้ละเอียดว่า การที่เราจะยกจิตยกอาทิสมานกายขึ้นไปบนพระนิพพานได้
ข้อที่ 1 จิตเราต้องมีความศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัย คือถึงซึ่งไตรสรณคมน์
2 จิตของเรานั้นเข้าถึงศีล ศีล 5 ต้องบริสุทธิ์แน่นอน
ข้อต่อไปก็คือ จิตที่สามารถใช้กายทิพย์ขึ้นไปยังภพอื่นภูมิใดได้ ต้องมีกำลังในระดับของอภิญญา 6 ขึ้นไป จนกระทั่งถึงปฏิสัมภิทาญาณ และการที่จิตจะเข้าถึงพระนิพพาน จิตก็ต้องบริสุทธิ์สะอาดจากกิเลส มีความบริสุทธิ์ของจิต แม้ขณะจิตนั้นก็เป็นจิตของอรหัตผลแม้เพียงชั่วคราว
ดังนั้นการที่เรายกจิตขึ้นไปบนพระนิพพาน อธิษฐานแต่ละแผ่น มันเป็นการครอบคลุมทั้งหมดอยู่แล้ว รวมถึงเป็นการตอกย้ำให้จิตของเรามีความแนบมีความมั่นคงในพระนิพพาน การที่เราอธิษฐานหลายท่านไม่ได้อธิษฐานเพียงแค่ครั้งเดียว บางท่านมีความตั้งใจอย่างยิ่ง ตั้งจิตอธิษฐานเป็นร้อยครั้งเป็นพันครั้ง คือเขียนแผ่นทองเป็นร้อยเป็นพันแผ่น บางท่านเขียนทั้งหมด 3,000 แผ่น 5,000 แผ่น ดังนั้นการที่เราปฏิบัติฝึกฝน อธิษฐานย้ำแล้วครั้งแล้วครั้งเล่า กำลังใจก็ดีความเพียรก็ดีวิริยะบารมีทั้งหลายก็ดี บารมีทั้ง 30 ทัศก็เต็มในการจัดสร้างพระเจ้าองค์แสนในครั้งนี้ ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การสร้างพระพุทธรูปโดยทั่วไปตามปกติ เป็นการสร้างที่มีกำลังใจสูงกว่าปกติ อย่าลืมว่าถ้าเรามองในเรื่องของกำลังใจเป็นหลัก คำว่ากำลังใจนั้นถ้าภาษาปฏิบัติที่หลวงพ่อสอนก็คือบารมี กำลังใจสูงก็คือบารมียิ่งสูง คนที่เสียสละลงทุนลงแรงในการจัดสร้าง เป็นจิตอาสาร่วมแรงร่วมใจกันในการจัดสร้าง คนที่ตั้งจิตขยันตั้งใจอธิษฐาน เพราะมีความตั้งมั่นทั้งในส่วนที่ว่าอยากให้จิตตนเองเข้าถึงพระพระนิพพาน และมีจิตเสียสละว่า การรวบรวมให้ได้แสนแผ่นนั้นเป็นเรื่องยาก
ดังนั้นถ้าเราไม่ช่วยจำนวนทั้งแสนแผ่นจะครบได้อย่างไร ดังนั้นจึงทวีความเพียรเร่งความเพียรในการปฏิบัติในการอธิษฐานจิต ก็กลายเป็นการเร่งรัดบารมีของเราเอง จุดนี้เป็นจุดที่สำคัญ ซึ่งในเรื่องของภาคทิพย์นั้น นอกเหนือจากที่พระท่านสั่งให้สร้างขึ้นแล้ว ทุกท่านไม่ว่าจะเป็นเทพพรหมเทวดาทั้งหลาย หรือท่านที่อยู่บนพระนิพพาน ท่านก็ล้วนแต่เอาใจช่วย หลายสิ่งหลายอย่างท่านก็บอกงานลงมา บอกวาระ บอกเหตุการณ์ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในจุดต่างๆ ตั้งแต่การจัดสร้างทั้งหมดมา ซึ่งวันนี้เราก็จะได้พูดคุยอาจารย์ก็จะได้เล่าในเรื่องของภาพทิพย์ที่อยู่เบื้องหลัง เป็นการเปิดกว้างให้ในกลุ่มของพวกเราได้ทราบกัน
สิ่งแรกก็คือการจัดสร้างคำอธิษฐาน พระท่านก็เมตตาดลจิตดลใจไปบอกในสมาธิให้หลายคนช่วยกันเขียนตั้งใจเขียนให้เป็นจำนวนมากเป็นพิเศษ ตรงจุดนี้ท่านก็เมตตามาบอกเป็นเรื่องปัจจัตตังเป็นวาระแต่ละบุคคล ซึ่งหลายคนก็ได้มาเล่าให้ทางอาจารย์ฟัง หรือบางท่านสมเด็จองค์ปฐมท่านก็เมตตาสั่งให้เป็นผู้ที่ช่วยอาจารย์ในการจัดหาทุน รวบรวมปัจจัยให้ได้ครบ หลายบุคคลก็ได้เสียสละปัจจัยของตนเอง หลายบุคคลก็ได้เสียสละทั้งปัจจัยทั้งกำลังสติปัญญาในการรวบรวม หาหนทางที่จะรวบรวมปัจจัยในการจัดสร้างมาให้ครบ หรือแม้แต่กระทั่งในช่วงท้ายก่อนที่จะเริ่มวันหล่อ ยังขาดปัจจัยอีกเป็นจำนวนมากคือ 3-4 แสนบาทซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่สูง พระท่านก็สั่ง แล้วก็เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ในช่วง 3-4 วันสุดท้าย เดี๋ยวก็จะมีปัจจัยเทลงมา ซึ่งสุดท้ายก็เป็นไปตามที่พระท่านบอก คือในช่วง 3 วันสุดท้ายก็มีโอกาสที่มีบารมีบุญของทางคุณหมอศุภชัยช่วยประกาศบุญอีกทางหนึ่ง ทำให้มียอดปัจจัยเข้ามาเป็นจำนวนมากจากการเปิดกองบุญ นอกจากนี้พระท่านเทวดาพรหมก็เมตตา ดลจิตดลใจให้คนมาร่วมบุญ ท่านใดที่มีวิสัยอยู่ในเขตของการบรรลุธรรมอยู่ในเขตของกุศล เทวดาท่านก็ดลใจมาให้มาร่วมบุญกัน หรือแม้แต่กระทั่งการจัดงานหล่อนั้น คิดตามประสาของคนทั่วไป วันเสาร์ 5 ที่ผ่านมานี้เป็นฤกษ์พรหมประสิทธิ์ 3 ดาวก็คือเป็นวันดีอย่างยิ่ง ทุกวัดจัดงานใหญ่ไม่ว่าจะเป็นงานเป่ายันต์เกราะเพชรรับยันต์เกราะเพชรที่วัดท่าขนุน งานที่ตัววัดท่าซุงเองหรือแม้แต่กระทั่งวัดต่างๆก็มีงานใหญ่ทั้งสิ้น คิดตามประสาของความเป็นมนุษย์เราก็คิดว่าจะมีคนมามากน้อยแค่ไหน เตรียมไปถ้าเกิดคนไม่มาจะทำยังไง ฟ้าฝนมีพายุจะทำอย่างไร แต่สุดท้ายแล้วพระท่านก็บอกว่าคนจะมามาก มากนี่ก็คือพอสมควร แล้วท่านก็บอกอีกว่าจะมีลูกศิษย์เก่าๆของอาจารย์มาร่วมงานด้วย และสุดท้ายสิ่งที่ปรากฏก็เป็นจริงตามนั้น เตรียมไว้สำหรับรองรับทั้งอาหารก็ดีทั้งพระที่ระลึกก็ดี เป็นจำนวน 200 คิดว่าจะเหลือกลับไหม ปรากฏว่าคนมาเกิน โชคดีที่หลวงพ่อหนุนท่านเมตตาเอาพระของท่านมาแจกเพิ่ม รวมทั้งหมดคนที่มาก็ประมาณ 300 คนเศษ ซึ่งก็ถือว่ามากสำหรับการจัดงานครั้งนี้
และสิ่งต่อไปที่จะเล่าให้ฟังก็คือ ในวันก่อนที่จะเริ่มพิธีหล่อ คณะทำงานทุกคนก็ร่วมกันเจริญพระกรรมฐานที่โรงหล่อ ก็อธิษฐานจิตในภาคทิพย์ อาราธนาตั้งจิตอันเชิญ ขอทุกท่านบนพระนิพพานมาร่วมงาน อาราธนาพระอินทร์ท่านเทวดาพรหมทั้งหลายทุกภพ พระภูมิเจ้าที่เจ้าที่เจ้าทางขอให้ท่านมาร่วมงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้มีการตั้งจิตอธิษฐานว่าพระพุทธรูปองค์นี้เป็นพระพุทธรูปพิเศษ แต่เดิมโดยประวัติทั่วภูมิภาคนับตั้งแต่อดีตกาลในประเทศไทย ในยามวาระที่มีการจัดสร้างพระพุทธรูปพิเศษขึ้น จะมีปรากฏการณ์แปลกๆเป็นศัพท์ที่เรียกว่าอินทร์แปลง คำว่าอินทร์แปลงนั้นมาจากคำว่าพระอินทร์แปลงกายลงมาช่วยสร้างองค์พระให้สำเร็จ ดังตำนานในการสร้างพระหลาย ๆตำนานได้กล่าวว่า บางครั้งการหล่อพระติดขัดมีปัญหาไม่สามารถหล่อได้หล่อไปกี่ครั้งก็เกิดเบ้าแตก แต่ครั้นก็มีปรากฏการณ์ว่ามีตาปะขาวหรือชีปะขาว คือคนนุ่งขาวห่มขาวหน้าตาไม่คุ้นเคย คนแถวนั้นไม่รู้จักว่าเป็นใคร ก็มาอาสาที่จะช่วยหล่อ พอตาปะขาวนี้มาช่วยหล่อ องค์พระก็หล่อสำเร็จลงได้ พอหล่อเสร็จตาปะขาวท่านนี้ก็หายไปไม่ทราบว่าไปที่ไหนเป็นใครมาจากไหน ก็เลยมีความเชื่อว่าเป็นพระอินทร์แปลงกายลงมา หรือแม้แต่พระพุทธรูปทางเหนือทางไทยใหญ่มีการสร้างพระพุทธรูปชื่อพระเจ้าอินทร์สาน ก็คือเป็นพระพุทธรูปที่สานด้วยหวายทั้งองค์ คนทั่วไปสานให้เป็นองค์พระได้ สานเท่าไหร่ก็ไม่เป็นองค์พระ แต่ในที่สุดก็มีตาปะขาวท่านหนึ่งก็มา พอมาช่วยสานก็สำเร็จเป็นองค์พระได้ จึงได้ชื่อว่าพระเจ้าอินทร์สาน ซึ่งตรงนี้ทางอาจารย์เองพอทราบตำนานอยู่ ก็ได้พาทุกคนที่เจริญพระกรรมฐานขึ้นไปที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ สำหรับตอนนี้ก็ให้เราทุกคนนะเวลาที่เล่าให้ฟังทั้งหมดเราก็ดูตามไปด้วยความเป็นทิพย์ ก็ไปอาราธนาตั้งจิตว่ากราบพระอินทร์ท่านในจิต ก็กราบให้ทุกคนอธิษฐานขออาราธนาพระอินทร์ท่าน เสด็จเป็นอินทร์แปลงมาปรากฏในการจัดสร้างพระพุทธรูปพระเจ้าองค์แสนดวงจิตพระนิพพานนี้ด้วย คือตามจิตที่คิดก็คือ เราเป็นฝ่ายลงมือก่อนได้เปรียบ ก็คือไม่ต้องไปรอให้เกิดอุปสรรคแล้วก็ให้ท่านมาปรากฏ จะเป็นการที่ทำให้เสียกำลังใจเปล่าๆ
ดังนั้นเราก็ตั้งจิตอาราธนาท่านตั้งแต่แรก เพราะดังที่ทราบว่าพระพุทธรูปองค์นี้มีความสำคัญมีความศักดิ์สิทธิ์ในยุคสมัยอย่างยิ่ง เมื่ออาราธนาแล้วก็ขอให้ท่านเมตตาปรากฏให้มีปรากฏการณ์ที่ทำให้รู้ว่าท่านมาและเป็นใคร คือให้เกิดเหตุการณ์ที่ถือว่าเป็นเหตุการณ์ปาฏิหาริย์ ตรงนี้ก็ตั้งจิตไว้ หลังจากอาราธนาก็ขอให้ทุกอย่างราบรื่นเรียบร้อยไม่มีการกระทบกระทั่งมีแต่ความผ่องใสของจิต และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ตั้งจิตอธิษฐานอาราธนาเทวดาพรหมที่ท่านเป็นพระอริยเจ้า ซึ่งเทวดาพรหมที่ท่านเป็นพระอริยเจ้านั้นมีหลายพระองค์มาก ที่ท่านอยู่ในฐานะอยู่ในตำแหน่งที่มีหน้าที่ พระอินทร์ท่านก็เป็นพระอริยเจ้า แม่ศรีท่านก็เป็นพระอริยเจ้า ลุงพุดท่านก็เป็นพระอริยเจ้า พระยายมราชท่านท้าวสหัมบดีพรหมก็เป็นพระอริยะเจ้า แม้แต่กระทั่งเทวดาพรหมที่พิทักษ์รักษาพระพุทธรูปพระธาตุพระบรมสารีริกธาตุหลายท่านหลายพระองค์ก็เป็นพระอริยเจ้า ซึ่งด้วยความที่ท่านเป็นพระอริยเจ้านั้น ท่านย่อมมีจิตปรารถนาว่าที่สุดแล้วท่านเสร็จจากหน้าที่ท่านจึงเข้าพระนิพพาน
ดังนั้นเราก็ต้องมีจิตน้อมรำลึกถึงทุกท่านทุกๆพระองค์ ตอนนี้ก็ให้เราทุกคนดูตามนะ ว่าเทวดาพรหมที่ท่านเป็นพระอริยเจ้ามากแค่ไหน หรือแม้แต่กระทั่งเทวดาพรหมที่ท่านปกปักรักษาคุ้มครองตัวเรา ท่านก็เป็นพระอริยเจ้าหลายพระองค์นะ ดังนั้นท่านก็ปรารถนาพระนิพพานเช่นกัน เราก็ต้องตั้งจิตอธิษฐานอาราธนาให้ท่านมามีส่วนร่วม เพราะว่าเมื่อท่านจบจากงานแล้วท่านก็เข้าพระนิพพานเลยก็มี ดังนั้นตรงนี้ก็จะมีผลให้ท่านได้อธิษฐานจิตพระนิพพานด้วยเช่นกัน
เมื่อตั้งจิตไว้เช่นนี้แล้ว ในยามที่พระพุทธรูปพระเจ้าองค์แสนดวงจิตพระนิพพานสำเร็จเป็นองค์ขึ้น ก็จะมีเทพพรหมที่ท่านเป็นพระอริยเจ้าเป็นเทวดาพรหมที่มาพิทักษ์รักษาองค์พระพุทธปฏิมาองค์นี้ ซึ่งผลจากการที่อาราธนาขอให้ท่านมาร่วมบุญร่วมสร้างด้วย ท่านก็เมตตาดลจิตดลใจให้มีคนมาในงาน คนมาร่วมพิธีคนมาร่วมบุญ หรือแม้แต่สิ่งที่มันเป็นปรากฏการณ์หลายๆอย่างมันมีการปรากฏ เช่นในการตรวจนับเงินหลังจากมียอดทำบุญในการหล่อ นับครั้งที่ 1 ก็มีเงินงอกขึ้น มีความสงสัยทางทีมงานที่นับเงินสด ก็นับใหม่ครั้งที่ 2 พอนับครั้งที่ 2 ยิ่งมีเงินงอกขึ้นเพิ่มขึ้นมาจากครั้งที่ 2 จากครั้งที่ 1 เพิ่มขึ้นไปอีก ลังเลใจนี่สรุปว่าเราทีมงานเบลอหรืองง เลยนับกันครั้งที่ 3 พอครั้งที่ 3 ก็มีเงินงอกเพิ่มขึ้นมาจากตรั้งที่ 2 เข้าไปอีก หรือวัตถุมงคลกำไลยันต์เกราะเพชรที่ผู้ร่วมบุญทำบุญ 3,000 จึงจะได้รับ ทำยอดคิดว่ากำไลเหลืออีกเพียงแค่ไม่กี่เส้น พอถึงเวลาพอนับใหม่ นับไปนับมามีกำไลงอกขึ้นมาเพิ่มอีก ตรงจุดนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่อัศจรรย์ หรือแม้แต่ยอดปัจจัยในการสร้างจากที่ขาดเป็นจำนวนมาก สรุปรวมขึ้นมาก็กลายเป็นว่าเกิน เพิ่มขึ้นมาเกินจากที่ขาดไปเป็นจำนวนหลายแสนบาท
ดังนั้นทางทีมงานทางฝ่ายที่จัดหาทุนในการจัดสร้าง ก็เรียกว่าเหมือนกับยกภูเขาออกจากอกโล่งใจ ถึงเวลาวาระที่จะจัดงานฉลองพระเจ้าองค์แสนก็มีปัจจัยที่จะเลี้ยงพระที่มาปริวาสทั้ง 200 องค์ทั้งวัดได้ ตรงนี้ก็ถือว่าเทวดาพรหมพุทธานุภาพท่านสงเคราะห์ด้วยเพราะว่ากำลังใจที่เราทำเพื่อส่วนรวมกำลังใจที่สร้างพระเพื่อพระนิพพาน ท่านเมตตาสงเคราะห์เต็มกำลัง
คราวนี้พอในวันจัดงานวันที่หล่อ แม้ว่าจะมีอุปสรรคก็คือมีฝนปรอยมีฟ้าครึ้ม แต่ผู้ที่มาร่วมงานทุกคนก็ถือว่ามีความอดทนอย่างยิ่ง ไม่มีใครกลัวฝน หรือแม้แต่ทีมงานหลาย ๆท่านก็เดินตากฝนกรำฝนกันเป็นปกติไม่มีใครกางร่ม ทำงานกันกลางฝน แต่คราวนี้เหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้นในงาน สิ่งที่จะถ่ายทอดให้ฟังก็คือ พอในช่วงบวงสรวงตั้งแต่เริ่มต้น ตุ๊พ่อมหาสิงห์หลวงพ่อหนุนในยามที่ท่านกราบพระรูปหลวงพ่อพระราชพรหมญาณ ทางอาจารย์อยู่ที่บริเวณโต๊ะบวงสรวง ก็เห็นท่านกราบด้วยความนอบน้อมด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ถึงเวลาที่จุดธูปเทียนซึ่งท่านประธานต้องจุด ทั้งสองท่านก็เมตตาประคองกันด้วยความที่สุขภาพของตุ๊พ่อมหาสิงห์ท่านชราภาพ หลวงพ่อหนุนท่านก็เมตตาประคองมือกัน ประคององค์กันจุดธูปเทียนเป็นภาพที่มีความน่ารัก เป็นภาพที่มีความน่าศรัทธาว่าครูบาอาจารย์ท่านมีความรักใคร่กลมเกลียว ให้เกียรติยกย่องเคารพในพระพุทธเจ้าพระธรรมพระอริยสงฆ์อย่างยิ่ง ก็เป็นสิ่งที่เราควรดูเอาแบบอย่างไว้
ถึงเวลาหลวงพ่อหนุนท่านก็เมตตาตลอดทั้งงานนั้นเป็นประธานในงาน ในระหว่างที่เข้าเขตในช่วงของการเริ่มหล่อพระ อาจารย์ก็สังเกตว่ามีตาปะขาวท่านหนึ่งเดินทางมาก็ไม่รู้ว่าเป็นใครที่ไหน มีผ้าสไบเขียนอักขระจารึกเต็มตัวไปหมด บริเวณผ้าสไบก็มีเขียนยันต์ทั้งหมดเต็ม ถือสังข์ที่แกะสลักอย่างประณีตบรรจงมา ถึงเวลาวาระที่ตาปะขาวที่เราก็ไม่รู้ว่าเป็นใครที่ไหน ก็มาเป่าสังข์ให้ เป่าสังข์ให้ในช่วงของการหล่อในช่วงของการเททอง ในช่วงของการที่หลวงพ่อหนุนท่านหย่อนทองลงไปในเบ้าเพื่อหล่อเบ้าเอง และก็ในทุกเบ้าที่มีการเททองในชิ้นส่วนขององค์พระทั้ง 9 เบ้าหลอมนั้น ตาปะขาวหรือพราหมณ์ท่านนี้ท่านก็เป่าสังข์ให้ตลอด และในระหว่างนอกเหนือจากเหตุการณ์ช่วงจังหวะที่หยุดพักจากการเป่าสังข์ ท่านก็นำน้ำมาใส่ในสังข์ แล้วก็รินให้กับผู้มาร่วมงานหลายคน มีคนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เล่าให้ฟังว่า ท่านก็รินน้ำจากสังข์ให้กับคนหลายคน แต่สิ่งที่น่าสังเกตก็เหมือนว่าสังข์ก็มีอันเล็กเท่านี้ แต่รินแล้วรินอีก รินแล้วเหมือนกับว่าน้ำในสังข์นั้นไม่หมดไม่แห้งไป คือสังข์ก็มีเท่านี้แต่ทำไมน้ำที่เทออกมาจากสังข์ให้คนหลายๆคนไม่หมดสักที แล้วแต่ละคนก็นำน้ำจากสังข์มาลูบหน้าลูบตาก็มีความรู้สึกว่าน้ำที่ลูบหน้าลูบตานั้นมีจำนวนมากแล้วก็มีความชุ่มเย็น เรื่องนี้ก็เล่าให้ฟังเป็นนิทานให้เรานึกเอาเอง
ส่วนเหตุการณ์ต่างๆที่ปรากฏขึ้นในภาคของความเป็นทิพย์ ในช่วงตั้งแต่มีการบวงสรวง สักเคกาเม ที่เปิดเสียงหลวงพ่อ ก็ปรากฏว่าพระพุทธเจ้าตั้งแต่สมเด็จปฐมทุกท่านบนพระนิพพานเสด็จมากันหมด เทพพรหมเทวาโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ท่านเป็นพระอริยเจ้าเข้าใจปฏิปทาเข้าใจอานิสงส์ของการจัดสร้างพระเจ้าแสนดวงจิตพระนิพพานนี้ท่านก็เสด็จมาหมด มีความสว่างรุ่งโรจน์อย่างยิ่ง ตามธรรมชาติที่พายุเข้าตามวาระ จะต้องเกิดฝนถล่มอย่างหนัก ก็ปรากฏว่ามีฝนปรอยมีฝนตกเบาน้อยเพียงแค่อยู่ในจุดที่สามารถทำให้พิธีการ จนกระทั่งถึงการหล่อพระนั้นสามารถสำเร็จลุล่วงไปได้โดยไม่ได้ติดขัดอะไร การที่มีฝนตกก็เป็นเครื่องวัดกำลังใจของทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนี้ นี้เรื่องราวทุกอย่างก็ปรากฏขึ้นในความเป็นทิพย์ท่านก็เมตตามาประสิทธิ์ประสาทโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเททองหล่อทอง จำนวนทองคำที่มีคนมาร่วมบุญก็มีจำนวนมากเป็นพิเศษจากที่คิดว่ามีจำนวนไม่มากก็มากอยู่ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่สภาวะเศรษฐกิจมีความฝืดเคืองแบบนี้ ในช่วงที่เวลาทองคำมีราคาสูง สูงเรียกว่าสูงที่สุด แต่ก็ยังมีผู้ที่มีจิตศรัทธานำทองคำมาร่วมถวาย หรือแม้แต่มีหลายท่านถอดแหวนของตัวเอง ถอดสร้อยของตัวเองถอดของรักของตัวเองมา
มีท่านหนึ่งก็เล่าให้ฟังว่า ได้ซื้อทองคำตั้งแต่เริ่มทำงานเดือนแรก แล้วก็เป็นของที่รักมากใส่ตั้งแต่เริ่มทำงานจนกระทั่งอายุใกล้จะเกษียณราชการจากการทำงาน ก็สละทองคำที่เป็นจี้รูปหัวใจนี้ สละมาหล่อพระเจ้าองค์แสนด้วย แล้วก็มีทีมงานได้ถอดแหวนทองคำถวายต่อหน้าหลวงพ่อหนุน หลวงพ่อหนุนท่านก็เมตตาถามว่าไม่เสียดายเหรอถอดออกมาแหวนตั้งหนักเป็นทองคำแท้ ท่านก็ถามเพื่อตรวจสอบแล้วก็เพื่อจรรโลงกำลังใจให้เกิดมีความปิติในการถวายทาน คนที่ถอดแหวนก็ตอบว่าตั้งใจว่าจะไปพระนิพพานชาตินี้แล้วก็ขอถวายแหวนวงนี้ไว้หล่อพระไปด้วย หลวงพ่อหนุนท่านก็เมตตาบอกอานิสงส์ว่ายังไงก็ไปพระนิพพานได้แน่ อานิสงส์สูงจากการถวายทองคำจากจิตที่ตั้งมั่น
ดังนั้นก็ขอบอกว่าเราทุกคนที่ได้ร่วมบุญกัน ล้วนแล้วแต่ถือว่ามีความโชคดีมีกำลังใจสูง อย่างไรอานิสงส์ที่เราได้ร่วมสร้าง หลวงพ่อก็ดีพระพุทธเจ้าท่านก็ดีท่านก็เมตตาสงเคราะห์ ถึงเวลาที่เราจะตายอย่างไรท่านก็เมตตามารับแน่นอน สิ่งสำคัญก็คือให้เรายังมั่นคงในกุศลในความดี ทานก็จงทำทานให้ยังเป็นปกติ ศีลก็จงรักษาศีลไว้ศีล 5 เพื่อปิดอบายภูมิ เมตตาพรหมวิหาร 4 ก็ยังไว้ให้เป็นปกติ ภาวนาเจริญพระกรรมฐานตั้งจิตตัดกิเลสก็ทำให้เป็นปกติ ยังไงเราก็ไปพระนิพพานได้แน่ ตรงนี้ก็ขอโมทนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งขอบคุณทุกท่านที่ร่วมจิตร่วมใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกคนที่ตั้งใจเขียนแผ่นทองเป็นจำนวนมากด้วยความเป็นห่วงว่าจะไม่ครบแสนแผ่น ตรงนี้ก็ถือว่าจิตมีความเพียรมีความเสียสละตั้งใจเพื่อส่วนรวม ขอขอบคุณ Staff ทีมงานทุกคนทุกทีมที่ช่วยกัน งานที่เราเห็นเบื้องหน้านั้นจริงๆแล้วมีความเหนื่อยมีอุปสรรค มีการกระทบกระทั่งมีปัญหา ยากและเหนื่อยกว่าที่คนมาร่วมงานคิดหลายร้อยหลายพันเท่า อย่างไรก็ขอขอบคุณขอโมทนากับทุกคนที่เสียสละ แล้วก็ขอโมทนาสาธุกับเทพพรหมเทวา ที่ท่านทำงานของท่านเต็มที่ทั้งในส่วนของการดลจิตดลใจผู้คน เมตตาสั่งงานแต่ละบุคคล หรือแม้แต่กระทั่งที่ท่านหย่อนเงินมารวมทำให้เงินงอกด้วยกำลังของเทพฤทธิ์ หรือท่านที่แปลงกายลงมา แปลงลงมาเป็นคนมาร่วมงานบุญด้วย ตรงจุดนี้ก็ขอให้เราในฐานะที่ในกลุ่มของเมตตาสมาธิตั้งจิตขอบคุณตั้งจิตโมทนา
แล้วก็งานต่อไปของการจัดสร้างพระเจ้าองค์แสนดวงจิตพระนิพพานนั้น ก็จะเป็นขั้นตอนที่ทางวัดพระอาจารย์หนุนได้ทำฐาน แล้วก็มีการก่อฐานเพื่อที่ว่าใต้ฐานพระนั้น ก็จะเป็นการบรรจุสิ่งที่เราทุกคนได้ฝากมาบรรจุรวมถึงแผ่นทองที่ไม่ได้อธิษฐานเพื่อพระนิพพาน ก็จะบรรจุฐานองค์พระไป พระพุทธรูปผ้ายันต์วัตถุมงคลก็จะบรรจุฐาน จากนั้นช่างก็จะอัญเชิญองค์พระที่ขัดแต่งผิวเชื่อมประกอบเป็นองค์เรียบร้อยแล้ววางบนฐาน แล้วก็ทำการปิดทองทั่วทั้งองค์ประดับเพชรที่หน้างานคือที่วัด หลังจากนั้นก็จะมีพิธีสมโภชพระเจ้าองค์แสนถือว่าครบพร้อมเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งก็จะประเดิมเริ่มในวันแรกของการจัดงานปริวาสกรรมของทางวัดพุทธโมกข์ ซึ่งจะมีพระมาร่วมในงานปริวาสกรรมประมาณ 200-300 รูป ซึ่งการฉลองนี้พระพุทธรูปก็จะอยู่ที่ลานธรรมลานปฏิบัติ
ดังนั้นกระแสของมรรคผลกระแสจิตกระแสฌานสมาบัติที่บรรจุลงทั้งแสนดวงจิต ก็จะเกิดเป็นกำลังแห่งพระพุทธปฏิมา เป็นกำลังน้อมนำถึงให้ท่านที่มาปฏิบัติ ณ ลานธรรม ผู้ที่มากราบสักการะกราบไหว้ เข้าถึงธรรมเข้าถึงมรรคผลเข้าถึงมรรคผลพระนิพพานได้โดยง่าย และที่ท่านคือพระท่านสั่งมาอีกประการหนึ่งก็คือ ให้จัดทำแผ่นพระนามเหมือนกับปกติหน้าองค์พระก็จะมีพระคาถาสวดสักการะพระพุทธรูปองค์นี้องค์นี้ แต่สำหรับพระพุทธเจ้าองค์แสนดวงจิตพระนิพพานนี้ พระท่านสั่งให้เขียนเป็นคำแนะนำก็คือวางกำลังใจ ตั้งแต่กราบพระให้ถึงพระพุทธเจ้าบนพระนิพพาน ตั้งจิตนึกถึงว่าเรานั่งอยู่เบื้องหน้าสมเด็จองค์ปฐมบนพระนิพพาน ตั้งจิตกราบสักการะ วางร่างกายตัดกายตัดขันธ์ 5 ปล่อยวางกิเลสตัดกิเลส ทำจิตให้ผ่องใส พิจารณาให้เห็นภัยในสังสารวัฏ แล้วก็ตั้งจิตภาวนาในไตรสรณคมน์ ตั้งจิตอธิษฐานตัดภพจบชาติ แล้วก็บริกรรม “นิพพานัง ปรมัง สุขัง” 3 จบ 7 จบ 9 จบไปจนกระทั่งถึง 108 จบ อันนี้ท่านให้เขียนเป็นคำแนะนำ ซึ่งเดี๋ยวก็ต้องมีการจัดทำจัดสร้าง สลักบนหินแกรนิตแล้วก็วางหน้าองค์พระอีกที อันนี้ท่านสั่งมา ผลอานิสงส์ต่อไปในการเบื้องหน้า ตัวหลวงพ่อหนุนท่านก็ได้กล่าวว่า ทุกครั้งที่มีคนกราบทุกครั้งที่มีคนมาปฏิบัติบูชา ผู้ที่ได้ร่วมสร้างทุกคนก็ได้อานิสงค์ทุกครั้ง พระอยู่อีกร้อยปีพันปีอานิสงส์นี้ก็เกิดกับเรา ถ้าเราคนใดยังเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏผลอานิสงส์นี้ก็ยังปรากฏอยู่ แต่ถ้าเราไปพระนิพพานแล้วผลก็ยิ่งส่งผลที่ทำให้เราไปพระนิพพานง่าย
ดังนั้นก็ขอให้เราทุกคนมีความศรัทธามั่นคงในพระรัตนตรัย มีความมั่นคงมีความแนบในพระนิพพาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งจิตรำลึกว่าบุญที่สร้างพระเจ้าองค์แสนดวงจิตพระนิพพานนี้ เป็นบุญใหญ่จำเพาะตนของเรา เป็นเครื่องผูกจิตไว้ว่ายังไงชาตินี้เราไปพระนิพพานได้แน่นอน ขอให้เราทุกคนตั้งจิตไว้เช่นนี้
จากนั้นให้เราทุกคนยกอทิสสมานกายกราบพระท่าน กราบพระพุทธเจ้ากราบสมเด็จองค์ปฐม น้อมจิตกราบหลวงพ่อด้วยความเคารพ ปีนี้เป็นวาระที่หลวงพ่อมรณภาพครบ 33 ปีพอดี สามก็คือไตรสรณคมน์พระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ เราก็ตั้งจิตกราบท่าน บอกว่าถึงท่านมรณภาพไปแล้ว 33 ปี แต่ความดีธรรมะความเคารพรักของลูกหลานที่มีต่อท่าน บุคคลที่ได้รับประโยชน์จากธรรมะที่ท่านสอนที่ท่านได้ถ่ายทอด เกิดปรากฏเป็นสายธรรมสายปฏิบัติที่ตั้งจิตเพื่อพระนิพพานเป็นจำนวนมากเป็นแสนเป็นล้านคน ขอให้หลวงพ่อให้พ่อท่านอิ่มใจสุขใจยินดีที่ลูกหลานเดินตามรอยพ่อด้วยเทอญ
จากนั้นกราบท่านนะกราบหลวงพ่อนะ ตั้งใจกราบท่านด้วยความเคารพด้วยความซาบซึ้ง ถ้าเราไม่เจอหลวงพ่อเราก็คงไปพระนิพพานไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้เจอหลวงพ่อไม่ได้รับธรรมะจากหลวงพ่อเราก็คงไม่ได้อภิญญาสมาบัติไม่ได้ความเป็นทิพย์ ถ้าเราไม่ได้พบไม่ได้เจอหลวงพ่อเราก็คงมีสังสารวัฏที่ยังยืดยาวหาที่สุดไม่ได้ ตายไปชาตินี้จะไปไหนก็ยังไม่รู้ ให้เรารำลึกนึกถึงพระคุณของท่านด้วยความเคารพนอบน้อม แล้วก็ตั้งใจนะ มหาสังฆทานเราก็จะทำให้เป็นปกติ
จากนั้นกราบท่านกราบลาทุกท่านทุกๆพระองค์ อาราธนากระแสจากพระนิพพานลงมา แผ่เมตตาให้กับ 3 ภพภูมิ แผ่เมตตากระแสพระนิพพานลงมาคลุมยังประเทศชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ น้อมกระแสจากพระนิพพานลงมายังองค์พระที่กำลังประกอบหล่อเชื่อมเป็นองค์ อธิษฐานจิตนะให้เกิดความบริสุทธิ์ผ่องใส พุทธานุภาพความศักดิ์สิทธิ์เต็มกำลัง
จากนั้นโมทนาสาธุกับทุกบุญกุศล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกคนที่เป็นพุทธศาสนิกชนไปร่วมงานในวันเสาร์ 5 ที่ผ่านมา วัดไหนสายไหนสำนักไหนล้วนแล้วแต่เป็นบุญกุศล ทุกท่านที่ไปแน่นขณะทุกวัดทุกสาย แสดงถึงจิตที่มีความศรัทธาไม่เสื่อมถอย วัดทั่วไปตอนนี้เสื่อมจากศรัทธา แต่ทุกวัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายหลวงพ่อแน่นขนัดทุกวัด เพราะลูกหลานพุทธศาสนิกชนมีศรัทธาที่เป็นอจละศรัทธา คือศรัทธามั่นคงไม่เสื่อมถอย เราก็ขอโมทนากับทุกบุญทุกกุศล ใครไปรับยันต์เกราะเพชรมาเราก็สาธุด้วย ใครไปงานที่วัดท่าซุงก็สาธุด้วย ใครมางานหล่อพระเจ้าองค์แสนก็สาธุด้วย ใครมาที่วัดอื่นวัดใดที่ไหนก็ตามเราก็สาธุด้วยทั้งหมด ทุกกุศลทุกความดีเราโมทนานะ
จากนั้นก็ค่อยๆน้อมกระแสน้อมจิตลงยังกายเนื้อ หายใจเข้าช้าๆลึก ๆ 3 ครั้งพุทโธธัมโมสังโฆ จากนั้นค่อยๆถอดจิตช้า ๆจากสมาธิ สำหรับวันนี้ก็ขอโมทนาบุญกับทุกคน ก็ให้เราทุกคนได้รับผลอนิสงส์จากการสร้างพระเจ้าองค์แสนดวงจิตพระนิพพานกันเต็มกำลังทุกท่าน เกิดความปิติโสมนัสกันทั่วหน้า แล้วก็ในวาระต่อไปสัปดาห์หน้าก็จะเป็นวาระของการถวายมหาสังฆทานที่บ้านสายลม รวมถึงก็ขออนุญาตประกาศทางคณะของครูเกด ก็จะได้จัดเป็นเจ้าภาพกฐินที่ถวายพระผาติกรรมองค์ใหญ่แสนบาทกับทางวัดท่าซุง แล้วก็เมตตาเปิดโอกาสให้กองกฐินนี้เราทุกคนที่ปฏิบัติในเมตตาสมาธิในกลุ่มเมตตาสมาธิได้ร่วมบุญด้วยเป็นเจ้าภาพร่วมกันไปด้วย ซึ่งก็จะได้ประกาศบัญชีที่จะร่วมบุญเจ้าภาพกฐิน ซึ่งครูเกดก็ได้เมตตาเปิดขึ้นในนามของเป็นกองกฐินเมตตาสมาธิ ก็ขอให้เราได้ร่วมบุญนะ ถ้าคนไหนสะดวกก็ไปถวายด้วยกันในวันที่ 12 ตุลาคม อันนี้ก็เป็นงานต่อเนื่อง เราทุกคนล้วนแล้วแต่ยังอยู่ในเส้นทางแห่งกุศลเส้นทางแห่งธรรม การที่เราสามัคคีกันรวมกลุ่มเป็นกลุ่มเป็นก้อนกันนั้นก่อให้เกิดสามัคคี กุศลจากน้อยก็กลายเป็นมาก การทำบุญน้อยก็กลายเป็นบุญที่มันเป็นกองใหญ่มากดังที่ปรากฏทุกครั้ง
ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดที่เราจะต้องรักษาไว้ให้เป็นปกติในหมู่คณะก็คือสามัคคีธรรม รวมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนไว้ให้ดีที่สุดมากที่สุด และในกาลอนาคตข้างหน้าเข้าสู่ยุคชาววิไล เราก็สามัคคีกันทุกสายบุญเป็นหนึ่งคุณประโยชน์ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นมากขึ้น
ดังนั้นข้อนี้ก็ขอให้เราทุกคนจำไว้นะ หนักนิดเบาหน่อยกระทบนิดกระทบหน่อยก็ขอให้เราเมตตาอโหสิปล่อยวาง อะไรที่กระทบกระทั่งกันก็อโหสิกรรมต่อกันให้จบในทุกครั้งทุกงาน และสิ่งสำคัญก็คือสามัคคีกันไว้เป็นคุณธรรมที่สำคัญที่สุดทั้งในระดับของความสามัคคีของคนในชาติความสามัคคีของพุทธบริษัท 4 ความสามัคคีจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอจงมีความสามัคคีเป็นธรรม
สำหรับวันนี้ก็ขอโมทนาบุญกับทุกคน สวัสดี
ถอดเสียงและเรียบเรียงโดย : คุณรัตนา